อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แต่งหน้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของผู้บริโภคและนำหน้าเทรนด์ล่าสุด
และซัพพลายเออร์และผู้ค้าปลีกต่างก็รับทราบถึงแนวโน้มนี้ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของ Sephora หรือแคตตาล็อกออนไลน์ของตลาดด้านความงามเช่น www.beautysourcing.com เรากำลังเห็นแบรนด์จำนวนมากขึ้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไปในอุตสาหกรรม
ในปี 2023 เทรนด์สำคัญหลายอย่างจะครอบงำภูมิทัศน์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง เนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ มุ่งมั่นที่จะสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เพียงดึงดูดสายตา แต่ยังยั่งยืน ใช้งานได้จริง และครอบคลุม ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงแนวโน้มสูงสุดที่กำหนดอนาคตของบรรจุภัณฑ์แต่งหน้าและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
1. บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การเพิ่มขึ้นของวัสดุรีไซเคิลและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
เมื่อความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเข้ามามีบทบาทสำคัญ แบรนด์เครื่องสำอางจึงหันมาใช้โซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2023 วัสดุรีไซเคิล เช่น กระดาษ แก้ว และอะลูมิเนียมจะได้รับความนิยมมากขึ้นในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แต่งหน้า นอกจากนี้ วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ เช่น PLA (กรดโพลิแลคติก) และบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไมซีเลียมจะได้รับแรงผลักดันเนื่องจากแบรนด์พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
สุดยอดเครื่องดื่มดีท็อกซ์ ผ่านการทดสอบยา
ภาชนะรีฟิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
อีกแง่มุมหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนคือการเปลี่ยนไปใช้ภาชนะรีฟิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แบรนด์เครื่องสำอางจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในภาชนะบรรจุที่สามารถเติมหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการลดขยะบรรจุภัณฑ์ เทรนด์นี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าลงทุนในบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงที่สามารถใช้ได้หลายครั้ง ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
2. การออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง
น้อมรับปรัชญา Less-is-More
ในปี 2023 การออกแบบสไตล์มินิมอลจะยังคงครองตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางต่อไป แบรนด์ต่างๆ จะเน้นไปที่การสร้างบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม เรียบง่าย และดึงดูดสายตา โดยเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เทรนด์นี้สอดคล้องกับความชอบของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความงามที่ไม่เกะกะ และการเคลื่อนไหวแบบ “skinimalism” ที่เพิ่มขึ้นในความงาม ซึ่งส่งเสริมกิจวัตรการดูแลผิวแบบมินิมอลโดยใช้ผลิตภัณฑ์น้อยลง
บรรจุภัณฑ์มัลติฟังก์ชั่นและเป็นมิตรกับการเดินทาง
ในขณะที่ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่หลากหลายและสะดวกมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ จะตอบสนองด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบมัลติฟังก์ชั่นและเป็นมิตรกับการเดินทาง เทรนด์นี้จะสะท้อนออกมาในรูปแบบที่กะทัดรัด แปรงแต่งหน้าในตัว และตลับบรรจุอเนกประสงค์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทาและเก็บเครื่องสำอางได้ง่ายในขณะเดินทาง
3. บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลางและไม่จำกัดเพศ
การทำลายขอบเขตของบทบาททางเพศแบบดั้งเดิม
อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สำหรับแต่งหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญไปสู่บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกลางทางเพศและครอบคลุมทุกเพศทุกวัยในปี 2023 แนวโน้มนี้ได้รับแรงหนุนจากการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นว่าความงามไม่ได้ถูกจำกัดโดยเพศ และแบรนด์เครื่องสำอางจะพยายามตอบสนองผู้ชมที่กว้างขึ้นด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ เอาใจผู้บริโภคทุกท่าน โฟกัสจะอยู่ที่การสร้างบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากการเหมารวมเรื่องเพศ การใช้ชุดสีที่เป็นกลาง และการใช้ภาษาภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น
การออกแบบที่เข้าถึงได้และเป็นสากล
ความครอบคลุมในบรรจุภัณฑ์แต่งหน้าจะขยายไปสู่การเข้าถึงและการออกแบบที่เป็นสากล แบรนด์ต่างๆ จะใส่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้สำหรับผู้พิการหรือผู้ที่มีปัญหาด้านความคล่องแคล่ว ซึ่งอาจรวมถึงการปิดเปิดง่าย องค์ประกอบที่สัมผัสได้ และการติดฉลากที่ชัดเจนซึ่งช่วยให้ทุกคนใช้และเพลิดเพลินกับผลิตภัณฑ์แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น
4. บรรจุภัณฑ์ที่ชาญฉลาดและเชื่อมต่อกัน
การผสานรวมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้
ในขณะที่เทคโนโลยียังคงแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเราทุกด้าน บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางก็จะพัฒนาเพื่อรวมคุณสมบัติอัจฉริยะไว้ด้วย ในปี 2023 เราคาดว่าจะเห็นบรรจุภัณฑ์ที่มีรหัส QR, แท็ก NFC หรือแม้แต่เซ็นเซอร์แบบฝังที่ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม บทช่วยสอน หรือคำแนะนำส่วนบุคคลแก่ผู้ใช้ เทรนด์นี้จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เชื่อมต่อกับลูกค้าด้วยวิธีใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับความชอบและพฤติกรรมของผู้บริโภคได้
ความจริงเสริมและการทดลองเสมือนจริง
เทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) จะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แต่งหน้าในปี 2566 เนื่องจากผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่เปิดใช้งาน AR จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าก่อนตัดสินใจซื้อได้ เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดหรือใช้แอปเฉพาะ ลูกค้าสามารถดูได้ว่าผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะอย่างไรบนผิวของพวกเขา ทำให้ประสบการณ์การช็อปปิ้งเป็นแบบโต้ตอบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์ลดการคืนสินค้าและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าอีกด้วย
ต้องชดใช้เช็คกระตุ้น 2020
5. การปรับแต่งและการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณ
บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับประสบการณ์ผู้บริโภคที่ไม่เหมือนใคร
ความต้องการในการปรับแต่งและปรับแต่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางให้เหมาะกับแต่ละบุคคลจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2566 แบรนด์ต่างๆ จะเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าในการปรับแต่งบรรจุภัณฑ์ตามความต้องการ เช่น การเลือกสี รูปแบบที่ชื่นชอบ หรือแม้กระทั่งการใส่ชื่อหรือชื่อย่อ . เทรนด์นี้พูดถึงความปรารถนาในการแสดงออกและความเป็นตัวตนของผู้บริโภคยุคใหม่ และทำให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ชมได้มากขึ้น
บรรจุภัณฑ์ที่ปรับเปลี่ยนได้และเป็นโมดูล
อีกแง่มุมหนึ่งของการปรับแต่งบรรจุภัณฑ์แต่งหน้าคือการพัฒนาการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนได้และโมดูลาร์ โซลูชันบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถผสมและจับคู่ผลิตภัณฑ์หรือสร้างจานสีแต่งหน้าของตนเอง มอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและหลากหลาย ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ต่างๆ จะออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถจัดเรียงใหม่หรือขยายได้ง่าย ทำให้ผู้บริโภคมีความยืดหยุ่นในการสร้างคอลเลกชั่นเครื่องสำอางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
บทสรุป
ในปี 2023 อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางจะถูกกำหนดโดยแนวโน้มหลักหลายประการที่เน้นความยั่งยืน ฟังก์ชันการทำงาน การมีส่วนร่วม เทคโนโลยี และการปรับแต่ง ในขณะที่แบรนด์ต่าง ๆ ปรับตัวเข้ากับกระแสที่เกิดขึ้นใหม่นี้ พวกเขาจะสร้างโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง แต่ยังนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและครอบคลุมมากขึ้นในโลกแห่งความงาม